เมล็ดกาแฟคั่ว VAGASO Biotic Process

เมล็ดกาแฟ Vagaso Biotic Process กาแฟนวัตกรรมสัญชาติไทย

การันตีคุณภาพด้วย 4 รางวัลแห่งความสำเร็จ และภาคภูมิใจ

1. รางวัล นวัตกรรมแห่งชาติ ปี 2018 ด้านเศรษฐกิจ
2. รางวัล SME START UP AWARDS 2018
3. TOP TEN AGRI PLUS AWARDS ปี 2019
4. TOP 100 WORLD FOOD INNOVATION AWARDS 2019

Biotic Process เป็นนวัตกรรมที่ใช้ในการปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดกาแฟ ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ จำลองการหมักในกระเพาะชะมด ทำให้เมล็ดกาแฟเกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี จนได้กาแฟ Biotic Coffee กระตุ้น Embryo ให้เกิดการงอก ทำให้มีปริมาณสารกาบา (GABA) ในกาแฟเพิ่มมากขึ้น มีสรรพคุณคล้ายกับกาแฟขี้ชะมด ช่วยบำรุงในเรื่องประสาทและสมอง Biotic Process ช่วยปรับคาเฟอีนที่อยู่ในเมล็ดกาแฟ ให้เสถียรขึ้น อิ่มตัวมากขึ้น มีคาเฟอีนลดลง แต่ให้รสนุ่มละมุน ความขมลดลง แถมมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์

ในการดื่มกาแฟถ้าได้ประโยชน์จากคาเฟอีนเต็ม ๆ แต่ยังได้รสที่กลมกล่อม คงจะดีไม่ใช่น้อยเลย และ Vagaso Biotic Process ก็เป็นแบรนด์กาแฟที่ตอบโจทย์นี้เป็นอย่างดี

ด้วยนวัตกรรม Vagaso Biotic Process ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีสรรพคุณทางยาคล้ายกับกาแฟขี้ชะมด แถมมีราคาถูกกว่าด้วย ผลิตภัณฑ์ของ Vagaso Coffee มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดกาแฟสด เมล็ดกาแฟคั่ว หรือใครที่ไม่สะดวกบดกาแฟเองก็มีกาแฟแบบดริปแบคให้เลือกด้วย สะดวก แต่ได้กลิ่น และรสชาติของกาแฟสดคั่วบดแท้ ๆ สำหรับใครที่อยากลิ้มลองความเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟขี้ชะมด แต่ราคาย่อมเยา

ขั้นตอนการผลิตกาแฟ Biotic Process

เมื่อพูดถึงการผลิตเมล็ดกาแฟเพื่อชงดื่มในแต่ละวันมี 3 วิธีหลัก ๆ ที่โดดเด่น ได้แก่ Dry Process, Wet Process และ Honey Process เทคนิคที่สืบทอดกันมายาวนานเหล่านี้ ได้ถูกนำมาใช้หลายชั่วอายุคน ส่งผลให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพสูง และเป็นที่ชื่นชอบ

VAGASO เลือกใช้กระบวนการแบบ Dry Process โดยเก็บรักษาอย่างเหมาะสมที่สุดเป็นเวลา 6-8 เดือน ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม เป็นเวลา 6-8 เดือน เพื่อให้เกิดสารGABA (กาบา) ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ คาเฟอีนยังมีการ Saturate caffeine นำมาต่อยอดกระบวนการเป็น Biotic Process ต่อไป

ต่อยอดความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และก้าวข้ามขีดจำกัด โดยมาทำ Double Process อีกขั้นหนึ่ง เพื่อเป็น Biotic Process ซึ่งเป็นแนวคิดเชิงนวัตกรรม ที่จะปฏิวัติกาแฟทั่วโลก

กาแฟขี้ชะมดราคาแก้วละ 500-800 บาท ทำให้เกิดคำถามชวนสงสัย ?

ทำไมมันแพงจัง ซึ่งด้วยคุณสมบัติของกาแฟขี้ชะมด คือ มีสรรพคุณทางยา และรสชาติที่นุ่มกลมกล่อม ซึ่งจัดว่าอยู่ในเกรดกาแฟที่มีราคาสูง ในทางผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ดี ต้องสามารถแก้ Pain Point นี้ให้ได้

โดย VAGASO Biotic Coffee พยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยการนำเสนอทางเลือก ราคาประหยัด ที่ยังคงรสชาติ และคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยกระบวนการ Biotic Process ทำให้กาแฟมีคุณภาพใกล้เคียงกันกับกาแฟขี้ชะมด เป็นทางเลือกที่ดีทั้งในมิติของรสชาติที่ยอดเยี่ยม สุขภาพที่ดี และความสามารถดื่มได้ทุกวัน

ปริมาณคาเฟอีนลดลง และองค์ประกอบมีความเสถียรมากขึ้น

กระบวนการ Biotic Process จะเกิดสารสังเคราะห์ชนิดฟลาโวนอยด์ และโพลีฟีนอล เพิ่มประสิทธิภาพของคาเฟอีนด้วยการลดขนาดโมเลกุล ผลักเข้าสู่กระบวนการดูดซึมของร่างกายได้เร็วขึ้น ช่วยลดอาการ Automatic Nerve มือเท้าสั่น,ใจสั่น และช่วยปรับสมดุลการนอนให้ดีขึ้น

ระดับสารกาบา (GABA) ที่เพิ่มมากขึ้น

สารกาบา (GABA Chemical) กระตุ้นการผ่อนคลายของร่างกาย และส่งผลให้ระบบประสาท และสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงเช่นอัลไซเมอร์ และพาร์กินสันอย่างมีประสิทธิภาพ

VAGASO Biotic Process มีการรับรองว่าเป็นกาแฟ Organic หรือไม่ ?

VAGASO Biotic Coffee ใช้นวัตกรรม Toxic Deletion หรือ Bio Organic เพื่อกำจัดสารพิษ และสารตกค้างภายในกาแฟ โดยการตรวจสอบจากแล็บยืนยันว่าไม่มีสารเคมีตกค้าง เพื่อให้คุณปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ให้คุณเชื่อมั่นกับกาแฟทุกแก้วที่ดื่มผ่านกระบวนการ Biotic Process ของ VAGASO

พันธุ์กาแฟที่ใช้: กาแฟอาราบิก้า

คือ พันธุ์กาแฟที่หาได้ยากกว่าโรบัสต้า ลักษณะของเมล็ดจะค่อนข้างเรียว และส่วนผ่าตรงกลางคดเป็นเหมือนรูปตัว S ผลผลิตที่ได้มีปริมาณน้อย ภูมิคุ้มกันต่อโรค และแมลงต่ำ จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ พื้นที่ๆ ใช้ปลูกอาราบิก้าให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพควรปลูกในเขตพื้นที่สูง อากาศเย็น เพราะสายพันธุ์นี้ชอบและจะเจริญเติบโตได้ดี ต้องปลูกในเขตพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตรขึ้นไป

ดังนั้นส่วนใหญ่เราจึงพบสายพันธุ์นี้ที่บริเวณภาคเหนือของไทย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้น และด้วยเอกลักษณ์ของกลิ่นที่หอมละมุน พร้อมกับรสชาติที่ออกไปทางนุ่มกลมกล่อม อีกทั้งยังมีปริมาณของคาเฟอีนที่น้อยกว่านี่เอง ส่งผลให้สายพันธุ์กาแฟอาราบิก้าเป็นที่นิยม

แหล่งปลูกที่ VAGASO เลือกใช้: กาแฟอาราบิก้า ดอยผาแดง อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่

กาแฟอาราบิก้า ปลูกบนพื้นที่ดอยผาแดง พื้นที่เขาสูงชัน เขตเงาภูเขา และใต้ร่มไม้ใหญ่ ที่ระดับความสูง 1,400 – 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็นจัดตลอดทั้งปี เพาะปลูกโดยชาวจีนฮ่อ (ลูกหลานกองพล 93 ก๊กมินตั๋ง) ด้วยสภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกที่เหมาะสม และการดูแลเอาใจใส่ที่ถูกวิธี กาแฟอาราบิก้า ดอยผาแดงจึงมีคุณภาพสูง เมล็ดสมบูรณ์รสชาติดี กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โชว์กาแฟนวัตกรรม Biotic Process สวิตเซอร์แลนด์ สนับสนุนโดย สนง.นวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)