Alpha Gen (Alpha Generation) คือ กลุ่มเด็กที่เกิดในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 หรือปี พ.ศ.2553 และจะใช้ช่องว่างระหว่างวัยไปสิ้นสุดในช่วงปี พ.ศ.2568 กลุ่มประชากรที่อยู่ในยุคถัดจาก Gen Z ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นแรกที่เกิดในศตวรรษที่ 21 เมื่อเกิดมาแล้วจะให้ความสนใจกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากกว่า จึงมักมีประสบการณ์ และเข้าใจสิ่งรอบตัวภายในเวลาอันรวดเร็ว คนไทยเรียกกลุ่มนี้ว่า คนไทยเรียก Gen Alpha เจนอัลฟ่า
เจนอัลฟ่า สนับสนุนลูกให้ถูกทาง จุดประกายความสำเร็จของเด็กยุคนี้
เด็กในแต่ละช่วงที่เกิดขึ้นย่อมเติบโต และพัฒนาตามยุคสมัย ซึ่ง Generation ปัจจุบันจะถูกเรียกว่าเด็ก Alpha Gen หรือเด็กเจนอัลฟ่า ผู้มีความแตกต่างจากยุคอื่นพอควรด้วยเทคโนโลยี และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ
พ่อแม่ผู้ปกครองจึงนับว่ามีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยสนับสนุนให้พวกเขาเดินได้อย่างถูกต้องตามเส้นทาง พร้อมจุดประกายความสำเร็จ มองเห็นอนาคต และเป้าหมายของตนเองแม้อายุยังน้อย
สารบัญบทความ
- Alpha Gen ความแตกต่างของเด็กยุคใหม่ที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ
- เทคโนโลยี คือตัวแปรสำคัญต่อการพัฒนาของเด็ก Alpha Gen
- มองเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เด็กกำลังทำ
- เน้นทักษะมากกว่าเนื้อหาในตำรา
Alpha Gen ความแตกต่างของเด็กยุคใหม่ที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ
อย่างที่บอกไป สำหรับกลุ่ม Alpha Gen หรือคนไทยเรียก “เจนอัลฟ่า” คือ กลุ่มเด็กที่เกิดภายใน พ.ศ.2553 และจะไปสิ้นสุดในช่วงปี พ.ศ.2568 ให้ความสนใจศึกษา และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว ส่งให้มีความเข้าใจสิ่งรอบตัว และเรียนรู้ประสบการณ์เสมือนจริง ภายในเวลาที่รวดเร็ว
ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ จากคำพูดของ Mark McCrindle ในฐานะนักประชากรศาสตร์ชาวออสเตรเลีย เคยกล่าวบนเวที TEDx ว่าเด็กใน Generation นี้จะมีความฉลาดมากสุดของบรรดาเผ่าพันธุ์มนุษย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สาเหตุสำคัญเพราะการมีเทคโนโลยีที่พร้อมสรรพ ซึ่งพวกเขาสัมผัสได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยซ้ำ
แถมเมื่อเกิดมาตั้งแต่เด็กยังมีสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงถึง 47.4% และแนวโน้มดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับเด็กยุคใหม่
เทคโนโลยี คือตัวแปรสำคัญต่อการพัฒนาของเด็ก Alpha Gen
จากข้อมูลดังกล่าวบ่งบอกว่าเด็ก Alpha Gen จะอยู่กับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วโดยตลอด นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อกระบวนการทางความคิด และพฤติกรรมของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตัวอย่างที่สังเกตชัดเจน อาทิ เมื่อมีสิ่งใหม่เข้ามาแทนที่ เด็ก ๆ พร้อมจะเรียนรู้ทันที จึงช่วยเปิดมุมมองความคิดใหม่ ไม่ย่ำอยู่กับที่ หรือมียึดติดกับความเชื่อดั้งเดิม, ความเชื่อเดิม ๆ ที่อาจไม่ใช่เรื่องถูกต้องเสมอไปเหมือนกับคนยุคก่อน
ด้วยเหตุนี้เอง พ่อ – แม่ ที่มีลูกในยุคเจนอัลฟ่า จึงต้องสร้างความเข้าใจแบบใหม่ โละชุดความคิดเก่าทิ้งให้หมด เปลี่ยนทัศนคติ ปรับค่านิยมเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญต้องพร้อมเปิดกว้างด้านการเรียนรู้พร้อมกับลูก
เพื่อเป็นอีกผู้ช่วยคนสำคัญที่จะสนับสนุนให้เด็กก้าวเดินตามเส้นทางที่ตนเองวาดฝันเอาไว้ หรืออย่างน้อยก็เป็นผู้กระตุ้นเพื่อสร้างประกายความฝัน จนนำไปสู่เป้าหมายที่สำเร็จลุล่วง
มองเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เด็กกำลังทำ สิ่งแรกที่พ่อแม่สามารถสนับสนุนได้
เมื่อเด็กยุคเจนอัลฟ่ามีความคิดเป็นของตนเองมากขึ้น จากปัจจัยแวดล้อมที่พวกเขาได้รับ เช่น ข้อมูลข่าวสารผ่านโลกอินเทอร์เน็ต
จึงไม่แปลกหากบรรดา Alpha Gen ทั้งหลายจะอยากเริ่มต้นทำในสิ่งที่ตนเองสนใจ บางเรื่องอาจเป็นสิ่งที่พ่อแม่เองไม่คาดคิด หรือไม่เคยรู้จักมาก่อน สิ่งที่ควรทำอย่างมาก คือ ไม่ปฏิเสธ ต่อต้าน
หรือพยายามโน้มน้าวให้เขาหันมาใส่ใจกับเรื่องที่ควรทำตามแนวทางของพ่อแม่เอง
ในทางตรงข้ามคือ ต้องปรับวิธีคิดให้เสมือนตนคือเด็กในวัยนั้น แล้วมองอนาคตให้ไกลออกไปอีกขั้นเพื่อเห็นคุณค่าในสิ่งที่เด็กกำลังทำอยู่ มากไปกว่านั้นพ่อ-แม่บางคนอาจช่วยสนับสนุนทั้งการให้กำลังใจ,
การเป็นผู้ส่งเสริมค้นคว้าหาข้อมูล แล้วนำมาแชร์ไอเดียดี ๆ ให้กัน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แม้ไม่ต้องเอ่ยปากพูดว่าพ่อกับแม่เห็นคุณค่ามากน้อยแค่ไหน แต่การกระทำก็สื่อออกไปได้ชัดเจน จนสร้างพลังอย่างไม่น่าเชื่อให้กับพวกเขาได้ด้วย
ในการเลี้ยงลูกตั้งแต่อดีต พ่อแม่มักคิดว่าเด็กที่เรียบร้อย อยู่ในกรอบ มักทำให้รู้สึกสบายใจ ไม่เหนื่อยมากเกินไป แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคอัลฟ่าบ่อยครั้งการให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
มีทักษะของชีวิตมากกว่าเนื้อหาในตำราเรียน นี่คือเรื่องจำเป็นที่พ่อแม่ต้องรู้สึกด้วยตนเองตั้งแต่ครั้งแรก ที่อยากให้เด็กเกิดมาแล้วด้วยซ้ำ อย่ามองแค่เด็กคนหนึ่งยังไงก็ต้องใช้ชีวิตในแบบที่วางแผนเอาไว้ทุกอย่าง
วิธีสนับสนุนง่าย ๆ คือ ให้เด็กฝึกวิธีคิด ไม่ใช่ให้เรียนรู้ในสิ่งที่ถูกคิดเอาไว้แล้ว เหตุเพราะเด็กเข้าถึงเทคโนโลยีง่าย การสร้างกรอบจึงเสมือนกักขังความคิด จิตใจ และการเติบโตเพื่อเรียนรู้อย่างไม่สมควร
เรื่องที่อยู่ในตำรา หรือกรอบสี่เหลี่ยมที่ พ่อ-แม่ สร้างขึ้นมาทำได้แค่ระดับหนึ่ง แต่พอถึงวัยที่เขาควรรู้ก็ต้องปล่อยให้เด็กกล้าเดินออกจากสิ่งที่เคยอยู่แล้วเผชิญกับโลกกว้างโดยมีพ่อแม่คอย Support ด้านหลัง
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแนะนำ
นวัตกรรมผักโขมอินทรีย์อบกรอบ เป็นการนำผักโขมมาแปรรูปเป็นแผ่นบางกรอบ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานผักโขมได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ชอบรับประทานผักสด หรือกลุ่มผู้บริโภคสายเฮลที (Healthy) ที่ต้องการอาหารที่มีคุณค่าอาหารสูง
- 1 ซอง พลังงานเพียง 25 แคลอรี
- 1 ซอง = ผักขม 1 ถุงในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป (200 กรัม)
- 1 ซอง = มีปริมาณใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เท่ากับ ผักโขมสด 1 ขีด (80 กรัม)
- วัตถุดิบหลักเป็นผักโขมอินทรีย์แท้ๆ 100%
- ผักโขมอุดมไปด้วยสารอาหาร ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามิน
- ผักโขมช่วยทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น
- ผักโขมให้โปรตีนสูงพอ ๆ กับเนื้อสัตว์
- ผักโขมช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ
- ผักโขมช่วยบำรุงเลือด และทำให้เลือดไหลเวียนดี
ผักโขมอบกรอบเป็นทางเลือกอร่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าอาหารสูง สามารถเป็นขนมยามว่างช่วง "เรียนออนไลน์" สำหรับเด็กๆ และช่วง "Work From Home" สำหรับคุณ
สรุป
เมื่อ พ่อ-แม่ หรือผู้ปกครองในยุคนี้ต้องทำความเข้าใจกับกลุ่มเด็ก Alpha Gen สิ่งสำคัญจึงต้องรู้ว่าพวกเขาสัมผัสกับเทคโนโลยี จึงไม่แปลกหากความคิด การเติบโตจะแตกต่างไปจากคนรุ่นเก่า สิ่งที่สามารถทำได้จึงต้องรู้จักวิธีสนับสนุนพวกเขาให้ถูกทางมากที่สุด กล้าปล่อยเด็กทำตามสิ่งที่ฝันอย่างอิสระ
แต่ไม่ใช่การออกนอกเส้นทาง หากตรงไหนมองแล้วจะเกินความสามารถของพวกเขา ก็พยายามปรับให้เข้ารูปเข้ารอย ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เด็กพยายามนำเสนอ เห็นคุณค่าในเรื่องที่เขาทำแม้เป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม วันหนึ่งความสำเร็จมีโอกาสปรากฏขึ้นแบบไม่ไกลเกินเอื้อม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อย่าลืม! แอดไลน์ @innbuddy เพื่อรับข่าวสาร และโพรโมชันจากทางร้าน
ขอบคุณข้อมูลจาก