ผัก อาหารที่แค่เอ่ยชื่อขึ้นมาก็ทำเอาหลายคนเบือนหน้าหนี ทั้งที่ในความเป็นจริงนี่คือวัตถุดิบชั้นยอดในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย แต่อาจด้วยรสชาติที่ไม่น่าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสหลังจำความได้เลย ส่งผลถึงการเป็นคนไม่ยอมกินผักเลย ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่
ไม่กินผัก
ซึ่งปัญหาใหญ่ที่มักตามมาย่อมหนีไม่พ้นเรื่องสุขภาพ การขาดภูมิคุ้มกัน นำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นการเริ่มต้นเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้หันมากินผักบ้างจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ และยืนยันว่าไม่ยากอย่างที่คิด ลองไปดูต้นต่อ และหาแนวทางแก้ไขกันครับ
สารบัญบทความ
แท้จริงแล้วการไม่ชอบกินผัก อาจเกิดจากพันธุกรรม
สำหรับคนที่จำได้ว่า ตั้งแต่ตนเองเกิดมาไม่ชอบการกินผัก หรือไม่ยอมกินเลย ส่วนใหญ่มักเกิดจากการได้สัมผัสกับรสชาติของผักที่มีความขม กินแล้วไม่อร่อย
ต่างจากเนื้อสัตว์ และอาหารชนิดอื่น เมื่อ First Impression ไม่ดีสมองก็มักคิดต่อเนื่องทันทีว่าผักทุกชนิดต้องมีรสขม กับอีกประเภทคือ
เคยได้ยินมาว่าผักชนิดนั้นชนิดนี้มีรสขม ดังนั้นต่อให้กินยังไงก็ไม่มีทางชอบแน่
อย่างไรก็ตามคนที่ไม่ชอบการกินผัก หรือบางคนถึงขั้น เกลียดการกินผักไปเลย อาจไม่ได้มาจากความรู้สึกนึกคิด หรือการได้ลองสัมผัสพียงอย่างเดียว ทว่ามีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรม และยีนบางตัวในร่างกายด้วย ซึ่งจากการวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคนทักกี ในสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยระบุว่า สำหรับบางคนที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือยีนเกี่ยวกับการรับรสชาติขมได้ไวกว่าคนปกติ เมื่อได้ลองกินผักสีเขียวจะรู้สึกขม และไม่อร่อย ทั้งนี้ยังรวมถึงอาหารชนิดอื่น เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, กาแฟ, ดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น
ทั้งนี้งานวิจัยยังระบุว่า ยีนภายในร่างกายของคนเราที่ชื่อ TAS2R38 กรณีคนปกติจะมียีน 2 ประเภทที่ต่างกัน ได้แก่ AVI กับ PAV ทว่าคนในกลุ่ม Super Taster หรือ ลิ้นการรับรสมีระดับความรู้สึกเข้มข้นกว่าคนปกติ
โดยเฉพาะการรับรสชาติขม จะมียีนประเภท PAV ชนิดเดียวกันถึง 2 ตัวเลยทีเดียว ดังนั้นจากข้อสรุปของงานวิจัยดังกล่าวจึงอาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกไม่อยากกินผักได้เช่นกัน
อันตราย! สำหรับคนที่ไม่เคยกินผักเลย จากงานวิจัยหลายแห่ง
อย่างที่รู้กันว่า “ผัก” คือ วัตถุดิบที่มีสารอาหารสำคัญทั้งวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิดที่ร่างกายควรได้รับ และถ้าคุณเองไม่ยอมกินผักเลยตั้งแต่เกิด หรือเริ่มที่จะจำความได้ นี่คืออันตรายที่มีสิทธิเกิดขึ้นกับร่างกายจากผลวิจัยของหลาย ๆ หน่วยงาน
- University of Texas Health Science Center – ร่างกายขาดวิตามิน และแร่ธาตุสำคัญหลายประการ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เช่น มีโอกาสเกิดโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร รวมถึงภาวะซึมเศร้า
- The United States Department of Agriculture (USDA) – หากไม่ยอมทานผัก และผลไม้ในแต่ละมื้อของวัน มักทำให้สารอนุมูลอิสระเกิดขึ้นง่ายนำมาซึ่งความเสี่ยงของโรคหลากชนิด เช่น โรคหลอดเลือด, มะเร็ง, ต้อกระจก, ผิวหนังเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย ฯลฯ (ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาว ๆ นะครับ)
- American Institute for Cancer Research (AICR) – แม้ไม่มีอาหารชนิดไหนช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็งได้แบบ 100% แต่การทานอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ได้มากกว่า การไม่กินผักทำให้เราขาดวิตามิน เพราะผักมีสารอาหารสำคัญอย่าง วิตามินอี วิตามินซี และแคโรทีนอยด์ (carotenoid) ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย พร้อมทั้งช่วยต้านอนุมูลอิสระทั้งสิ้น (antioxidant)
- Harvard T.H. Chan School of Public Health Harvard University – หากร่างกายคนเราไม่ได้รับสารอาหารจากผักเลยเท่ากับสิ่งที่กินเข้าไปจะมีเพียงแค่แคลอรี (calorie) กับไขมันแบบเต็ม ๆ มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ซึ่งงานวิจัยระบุว่าผัก และผลไม้จะช่วยลดระดับแคลอรีกับไขมันที่เข้าสู่ร่างกายให้น้อยลง ยกเว้นคุณจะกินพวกแป้งมากเกินพอดี
- British Medical Journal – หากกินผัก ผลไม้ประจำช่วยลดโอกาสเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้ถึง 4% ยิ่งถ้าใครกินอาหารมังสวิรัติการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจจะน้อยมาก
อย่าพึ่งคิดว่าการกินผักเป็นเรื่องยาก เพราะใครก็สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ทั้งสิ้น อาจเริ่มต้นจากการให้กำลังใจ มองเห็นโทษ และความอันตรายของการไม่ยอมกินผักเลย ศึกษาข้อมูลเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พยายามสร้างเป้าหมายในชีวิต
เมื่อกำลังใจดีแล้ว คราวนี้ก็ปรับพฤติกรรมของตนเอง เช่น
- ลองหั่นผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- เลือกประเภทผักที่ไม่มีความขมอยู่เลย
- กินผักคู่กับอาหารจานโปรดของตนเอง
- ใช้ผักเป็นส่วนประกอบหลัก ในการทำเมนูอันแสนง่ายดายที่ตนเองชอบ
หรือถ้าใครพยายามแล้วแต่ยังสู้ไม่ไหวจริง ๆ ความโชคดีในปัจจุบันคือมีทางเลือกที่ช่วยให้การกินผักเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นด้วยการนำเอาผักหลากชนิดมาแปรรูป แต่ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีว่าควรเลือกซื้อยี่ห้อไหน แบบใด เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ มีผักเป็นส่วนประกอบหลักเพื่อให้ได้รับสารอาหารสำคัญเข้าสู่ร่างกายได้อย่างครบถ้วน
เสมือนกับการกินผักในมื้ออาหารจริง แถมยังมีการปรับรสชาติให้หลากหลาย เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการไม่ยอมกินผักตั้งแต่เด็ก ๆ พร้อมทั้งเป็นตัวช่วยตอบปัญหาที่ว่า ไม่ชอบกินผัก กินอะไรแทนดี ของหลายคนได้อีกเยอะมากทีเดียว
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแนะนำ
นวัตกรรมผักโขมอินทรีย์อบกรอบ เป็นการนำผักโขมมาแปรรูปเป็นแผ่นบางกรอบ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานผักโขมได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ชอบรับประทานผักสด หรือกลุ่มผู้บริโภคสายเฮลที (Healthy) ที่ต้องการอาหารที่มีคุณค่าอาหารสูง
- 1 ซอง พลังงานเพียง 25 แคลอรี
- 1 ซอง = ผักขม 1 ถุงในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป (200 กรัม)
- 1 ซอง = มีปริมาณใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เท่ากับ ผักโขมสด 1 ขีด (80 กรัม)
- วัตถุดิบหลักเป็นผักโขมอินทรีย์แท้ๆ 100%
- ผักโขมอุดมไปด้วยสารอาหาร ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามิน
- ผักโขมช่วยทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น
- ผักโขมให้โปรตีนสูงพอ ๆ กับเนื้อสัตว์
- ผักโขมช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ
- ผักโขมช่วยบำรุงเลือด และทำให้เลือดไหลเวียนดี
ผักโขมอบกรอบเป็นทางเลือกอร่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าอาหารสูง สามารถเป็นขนมยามว่างช่วง "เรียนออนไลน์" สำหรับเด็กๆ และช่วง "Work From Home" สำหรับคุณ
สรุป
การไม่กินผักตั้งแต่จำความได้ อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น เรื่องของความไม่ชอบรสชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ การรู้สึกว่าผักเป็นของไม่อร่อย ดูไม่น่าทาน ไปจนถึงงานวิจัยที่บ่งบอกว่าอาจมาจากพันธุกรรม และยีนในร่างกายที่ไปสร้างการรับรสชาติขมมากกว่าคนปกติ
อย่างไรก็ตาม หากไม่ยอมกินผักเลยจะมีโอกาสส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเกิดโรคได้เยอะกว่าคนที่กินผักอยู่ประจำ ดังนั้นลองปรับแนวคิดตนเองใหม่ หันมาเปลี่ยนวิธีการกินผัก เช่น การหั่นผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมในอาหารที่ชอบ หรือเลือกผลิตภัณฑ์ผักแปรรูปที่มีรสชาติดี ได้คุณประโยชน์เต็มที่ก็ตอบโจทย์ไม่น้อย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อย่าลืม! แอดไลน์ @innbuddy เพื่อรับข่าวสาร และโพรโมชันจากทางร้าน
ขอบคุณข้อมูลจาก